信任看泰剧的小伙伴们都会发现泰国的人出家为僧时,需求把眉毛也剃掉,小伙伴们有想过这是为什么吗?想知道的话就一起看下去吧~
เหตุผลที่พระไทยต้องโกนคิ้ว ไม่มีหลักฐานยืนยัน มีแต่เรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า
泰国和尚需求剃掉眉毛的原因,没有切当的佐证,只有人们口口相传的传说。
ในสมัยอยุธยาที่ไทยรบกับพม่า พม่าส่งทหารปลอมตัวเป็นพระ ลอบเข้ามาสืบข่าวในพระนคร พระเจ้าอยู่หัวจึงรับสั่งให้พระไทยโกนคิ้วทิ้ง พระที่ไม่ได้โกนคิ้วก็แสดงว่าเป็นพวกพม่า จับไปสอบสวนได้ทันที หลังจากนั้นมาพระไทยก็โกนคิ้วมาตลอด
在泰国与缅甸交战的大城王朝时期,缅甸将自己的战士伪装成和尚,混进泰国王城盗取秘要。因而在位的泰国君主命令本国和尚剃掉眉毛,而没有剃掉的则是缅甸战士,能够立刻抓捕进行详细询问,此后泰国和尚便一向剃眉至今。
อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระวัดหนึ่งเห็นผู้หญิงเดินผ่านก็ยักคิ้วให้ ความทราบถึงสังฆราชเจ้า จึงออกเป็นคำสั่งแต่นั้นมาให้พระสงฆ์ไทยโกนคิ้ว จะได้ไม่ต้องยักคิ้วหลิ่วตาให้ผู้หญิง
另一个传说则是五世王时期,某个寺庙里的一位和尚见到有位女士通过,便对其暗送秋波,结果这件事被僧王悉知,便下令让泰国一切和尚都剃去眉毛,令其无法再对女士眉目传情,后来这个规则便保存至今了。
อย่างไรก็ตาม เรื่องการโกนคิ้วไม่ปรากฏในพระวินัย จะโกนหรือไม่โกนก็ได้ มีแต่คณะสงฆ์ไทยเท่านั้นที่โกนคิ้ว ถือเป็นวัตรปฏิบัติที่สืบต่อกันมา
不论如何,剃眉一事终究是没有出现在和尚戒律中,因而剃掉与否皆可,并且只有泰国的僧团会剃掉眉毛,将其视为戒律延续至今。
พระสงฆ์ในประเทศอื่น ๆ ไม่ได้โกนคิ้ว และยืนยันว่าควรจะไว้คิ้ว เพราะคิ้วเป็นเครื่องป้องกันมิให้เหงื่อไคลไหลเข้าตา
其他国家的僧侣并不剃掉眉毛,且以为应当保存眉毛,由于眉毛能够防止汗液流入眼睛。
